การเลือกเต็นท์ไม่ยากถ้าเรารู้จักสังเกตแค่ดูว่ามันแข็งแรง กางเก็บง่าย กันน้ำได้ดี และระบายอากาศดี เราก็จะได้เต็นท์ที่ใช้งานได้นานและใช้ได้อย่างสะดวกสบาย ในโพสต์เราจะมาลงลึกรายละเอียดของปัจจัยต่างๆ เหล่านี้กันครับ
ประเมินวัสดุที่ใช้
เต็นท์ที่ดีต้องทำจากวัสดุที่แข็งแรง เรื่องนี้สำคัญมากนะ ถ้าอยากได้เต็นท์ที่ใช้ได้นานๆ ต้องดูที่ค่าเดเนียร์ (Denier) ค่านี้บอกว่าผ้ามีเส้นใยหนาแน่นและแข็งแรงยิ่งค่าสูง ผ้าก็ยิ่งไม่ขาดง่าย ทนต่อการฉีกขาดได้ดี
ชนิดของผ้าจะมีความโดดเด่นต่างกัน เช่น ไนลอนกันน้ำได้ดีกว่า ขณะที่โพลีเอสเตอร์ทนรังสียูวีได้ดี ส่วนผ้า Rip-stop ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทานต่อการฉีกขาด ส่วนการตัดเย็บก็สำคัญ ตะเข็บต้องแน่นหนา ไม่ให้น้ำเข้าได้
ส่วนอื่นๆ ของเต็นท์ เช่น เสา หมุด และเชือก ถ้าส่วนพวกนี้แข็งแรง เต็นท์ก็จะทนลมแรงๆ ได้ดี ไม่พังง่ายๆ
ก่อนซื้อลองเช็คโครงสร้างของเต็นท์ดูก่อนนะ
เวลาเลือกเต็นท์เราต้องดูหลายอย่าง เริ่มจากโครงสร้างเต็นท์ก่อนดังนี้
- เสาที่ดีต้องแข็งแรงและตั้งง่าย ทำจากอลูมิเนียมหรือไฟเบอร์กลาส แข็งแรง ไม่คดง่าย เวลาลมแรงก็อยู่ได้สบาย มีสีบอกว่าชิ้นไหนต่อกับชิ้นไหน ช่วยให้กางเต็นท์ได้เร็ว
- เนื้อผ้าด้านนอกและด้านในเต็นท์ควรกันน้ำได้ หายใจสะดวก ไม่อึดอัด รอยต่อแน่น เช็คดูรอยต่อของผ้าว่ามีการปิดทับด้วยเทปกันน้ำมั้ย ตะเข็บต้องเย็บแน่นหนาไม่มีรอยรั่ว
- พื้นเต็นท์ควรกันน้ำได้เหมือนรองเท้าบู๊ท กันน้ำซึมเข้ามาจากพื้นดิน เลือกเต็นท์ที่มีมุมเสริม ช่วยให้ทนทาน
- เต็นท์ที่ดีต้องมีช่องระบายอากาศ ช่วยให้อากาศถ่ายเท ไม่ร้อน ไม่ชื้น เปิด-ปิดได้ เลือกเต็นท์ที่มีช่องระบายอากาศแบบเปิดปิดได้ตามต้องการ
เวลาเลือกซื้อเต็นท์ ต้องคิดถึงเรื่องฝนตกลมแรงด้วย
เมื่อคุณเลือกเต็นท์ควรคำนึงถึงความทนทานต่อสภาพอากาศที่ไม่ดีด้วย วัสดุของเต็นท์และการประกอบสำคัญมาก เต็นท์ที่ดีต้องกันน้ำ กันลม ไม่ให้เราเปียก ไม่ให้เราหนาว อัตราการกันน้ำแปลว่าเต็นท์กันน้ำได้เยอะ ฝนตกหนักแค่ไหน ก็ไม่เข้าเต็นท์แน่นอน!
อธิบายอัตราการกันน้ำ: ค่ากันน้ำบนตัวเต็นท์ (วัดเป็นมิลลิเมตร) บอกว่าผ้าเต็นท์ทนแรงดันน้ำได้มากแค่ไหนก่อนที่น้ำจะซึมผ่าน เขาวัดเป็นมิลลิเมตร ยิ่งตัวเลขสูง เต็นท์ก็ยิ่งกันฝนได้ดี ถ้าเราอยากให้เต็นท์กันฝนหนักๆ ได้ ก็ต้องเลือกค่ากันน้ำสูงๆ อัตรากันน้ำ 1,500 มม. เหมาะสำหรับฝนตกหนัก ส่วน 2,000 มม. ขึ้นไปเหมาะสำหรับสภาพอากาศเลวร้าย
นอกจากนี้ เรายังต้องดูผ้าคลุมเต็นท์ด้วย มันเป็นส่วนที่ช่วยป้องกันฝนและลมเพิ่มขึ้น ถ้าผ้าคลุมกันฝนออกแบบดีและคลุมมิดชิด มันจะช่วยให้เราแห้งสบายตอนฝนตก เชือกยึดช่วยให้เต็นท์มั่นคงขึ้นเวลาลมแรง เต็นท์จะได้ไม่ปลิว
เลือกเต็นท์กางง่ายเก็บง่าย ชีวิตดี๊ดี
เต็นท์ดีๆ มักมีวิธีทำให้กางง่าย เช่น มีระบบคลิปสีต่างๆ หรือเสาที่ออกแบบให้ต่อง่าย โครงสร้างไม่ซับซ้อน แบบนี้เราจะรู้เลยว่าชิ้นไหนต่อกับชิ้นไหน ไม่งง
- ระบบคลิปสี (Color-Coded Clips System): ช่วยให้เราตั้งเต็นท์ได้เร็วขึ้นมาก เพราะสีจะบอกเราว่าเสาอันไหนต้องต่อกับคลิปอันไหน เต็นท์ที่ใช้ระบบคลิปสีนี้ เราจะตั้งได้เร็วกว่าเต็นท์ธรรมดาประมาณ 10-15 นาทีเลยนะ เพราะเราไม่ต้องเสียเวลามานั่งคิดว่าชิ้นส่วนไหนต่อกับอันไหน
- เทคโนโลยี Quick Pitch: จะออกแบบให้เสาจะติดอยู่กับเต็นท์แล้ว แถมยังมีตัวล็อคที่ปลดได้เร็วด้วย เสาและตัวล็อคมีสีต่างกัน ช่วยให้เรารู้ว่าอันไหนต่อกับอันไหน ทำให้ทุกคนกางเต็นท์ได้ง่ายๆ ไม่ต้องเคยไปแคมป์ แค่ 60 วินาทีก็กางเองได้สบาย
เวลาไปเที่ยวป่าเลือกเต็นท์กางง่ายไว้ก่อน จะได้มีเวลาไปทำกิจกรรมสนุกๆ จะได้มีเวลาไปเดินป่า ว่ายน้ำ หรือแค่นั่งชมธรรมชาติได้นานขึ้น ไม่ต้องมานั่งปวดหัว ต่อนู่น ต่อนี่ เที่ยวป่าทั้งที ต้องสนุกเต็มที่ พอถึงเวลากลับบ้าน เต็นท์ที่เก็บง่ายก็ช่วยให้เราไม่เครียด ไม่ต้องมานั่งงงว่าจะพับยังไง เก็บไม่เข้า แบบนี้ทำให้การแคมป์ของเราสนุกตั้งแต่ต้นจนจบเลยล่ะ
นอนสบาย เที่ยวสนุก! เลือกเต็นท์กว้างๆ
เวลาเลือกเต็นท์เราต้องคิดถึงความสบายด้วยนะ เต็นท์ที่ดีต้องมีพื้นที่ใช้สอยเยอะพอ ถ้าอยากนอนสบายๆ ควรมี:
- พื้นที่อย่างน้อย 20-25 ตารางฟุตต่อคน จะได้มีที่นอนและเก็บของด้วย
- ส่วนพื้นเต็นท์ก็ต้องยาวพอนะ อย่างน้อย 90 นิ้ว จะได้นอนสบายๆ ไม่ต้องงอขา
- แล้วก็อย่าลืมดูความสูงของเต็นท์ด้วย ถ้าสูงกว่า 45 นิ้วก็ดี เราจะได้ไม่ต้องก้มหัวตลอดเวลา ไม่รู้สึกอึดอัด
สุดท้ายเต็นท์ที่ดีควรมีที่เก็บของด้วย เช่น กระเป๋าติดผนัง ชั้นวางของ หรือพื้นที่เก็บของหน้าเต็นท์ จะได้เก็บของให้เป็นระเบียบ มีที่นั่งเล่นสบายๆ
เลือกเต็นท์ที่มีช่องเก็บของเยอะๆ ไม่ต้องคุ้ยกระเป๋าใหญ่
ไปแคมป์ทั้งทีหาของลำบากเสียเวลา แนะนำให้เลือกเต็นท์ที่มีช่องเก็บของเยอะๆ มีกระเป๋าตาข่าย ชั้นวางของ เราจะเก็บของได้เยอะแยะเลย หาอะไรก็ง่าย ไม่ต้องคุ้ยกระเป๋าใหญ่ทุกที
ข้างในเต็นท์ก็ควรมีห่วงแขวนของ หรือช่องเล็กๆ เอาไว้ใส่ของจุกจิก แบบนี้เราจะหยิบจับอะไรก็ง่าย ไม่ต้องเสียเวลามานั่งหา
ระบายอากาศดีไม่อับไม่ชื้นหายใจสะดวก
เต็นท์ต้องมีช่องระบายอากาศที่ดี จะได้ไม่อับชื้น ไม่มีหยดน้ำเกาะ หน้าต่างและประตูใหญ่ๆ ช่วยให้อากาศถ่ายเทดี แถมยังได้ชมวิวสวยๆ รอบๆ ด้วย
หน้าต่างและประตูใหญ่ๆ ช่วยให้อากาศถ่ายเทดี แถมยังได้ชมวิวสวยๆ รอบๆ ด้วย
สุดท้ายก่อนซื้อเต็นท์ลองคิดดูว่าเราจะเอาไปใช้ยังไง การเลือกเต็นท์ ควรเลือกตามสไตล์การแคมป์ปิ้งของเรา ถ้าเป็นสายแบกเป้ชอบเดินป่าก็เลือกแบบเบาๆก็เน้นเบา พกพาง่าย กางเก็บง่าย ชีวิตจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป แต่ถ้าเป็นสายครอบครัว ให้เน้นกว้าง อยู่สบาย มีหลายห้องจะสะดวกกว่า